หน้าทุเรียนมาถึงทีไร คนรักทุเรียนคงสมใจอยาก บางคนถึงกับรับประทานเพลินจนน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลายกิโล แต่นอกจากเรื่องน้ำหนักแล้วควรระมัดระวังอาการร้อนในด้วยนะคะ ในเนื้อเหลืองอวบของทุเรียน ประกอบด้วย 3 อย่างหลัก คือ 1.แป้ง จากเนื้อเหลืองแน่นที่กินแล้วหวานมันอร่อยลิ้น 2.ไขมัน มีปนมาอยู่บ้างซึ่งมากกว่าพืชทั่วไป 3.วิตามินแร่ธาตุและกำมะถัน หรือซัลเฟอร์ โดยกำมะถันตัวนี้เองคือตัวร้อน เป็นผู้ร้ายที่ทำให้เกิดอาการร้อนในและกลิ่นไร้เทียมทานค่ะ
- สรรพคุณของทุเรียน มีดังนี้นะคะ 1.ช่วยฆ่าเชื้อ จากกำมะถันในเนื้อเป็นเสมือนยาปฏิชีวนะอ่อน ๆ 2.ช่วยเผาผลาญจากความร้อนของกำมะถันและน้ำตาลในเนื้อ 3.ช่วยระบาย จากกากที่เป็นเส้นใยในเนื้อ
นอกจากนี้ทุเรียนยังมีฤทธิ์ไล่พยาธิได้ด้วยกำมะถันที่รุ่มร้อนทำให้ลำไส้ไม่เป็นบ้านแสนสุขของพยาธิอีกต่อไป อีกทั้งกากใยในเนื้อที่ช่วยขัดล้างลำไส้ด้วย
- ส่วนที่หลายคนสงสัยกันว่า จะกินได้มากน้อยแค่ไหนใน 1 วันหรือ 1 สัปดาห์นั้น ทุเรียนแค่พูย่อม ๆ ประมาณ 1 ขีด ให้พลังงานพอ ๆ กับกินข้าวสวยถ้วยย่อม ๆ หรือราว 150 กิโลแคลอรี ดังนั้นถ้าจะกินก็ยึดหลักไว้ไม่เกินวันละ 1 พู และใน 1 สัปดาห์ไม่ควรกินเกิน 2 พู โดยเฉพาะในรายที่ไม่ออกกำลังกาย แต่ถ้าออกกำลังกายเป็นประจำก็อาจกินได้มากกว่านั้น
ทั้งนี้ทุเรียนสุก มีน้ำตาลหวานฉ่ำอยู่แล้ว ทำให้เกิดร้อนในและอ้วนได้ การกินให้ดีคือให้จำกัดปริมาณและขออย่ากินแบบ เพิ่มหวาน นั่นคือทำน้ำกะทิ ส่วนทุเรียนกวนนั้นก็ทานได้แต่สู้กินสดไม่ได้เพราะไม่มีกากไฟเบอร์เหลืออยู่มาก แถมเวลากวนก็ต้องผสมน้ำตาลลงไปอีกส่วนหนึ่งด้วย
- ใครที่ไม่ควรกินทุเรียน 1.คนเป็นเบาหวาน น้ำตาลและแป้งในทุเรียนจะทำให้น้ำตาลขึ้นสูงได้ 2.นักกีฬากำลังจะลงแข่ง เพราะจะทำให้เหมือนกับแบกถุงข้าวสารลงแข่งด้วย 3.คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง เพราะทุเรียนมีความร้อนอาจทำให้อาการกำเริบขึ้นมา 4.เด็กเล็กและทารก เพราะกำมะถันอาจทำให้เกิดร้อนในลำไส้แปรปรวนได้ และ 5.ผู้สูงวัย กินได้แต่อย่าให้มากนัก เพราะจะทำให้เหนื่อยง่ายไม่สดชื่นได้
ข้อแนะนำในการกินทุเรียน คือ 
1.เลือกทุกเรียนห่ามจะดีเพราะมีน้ำตาลน้อย แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็กินทุเรียนสุก เนื่องจากงานวิจัยพบว่า ทุเรียนมีสารต้านอนุมูลอิสระชื่อเคอซิทิน ซึ่งเป็นตัวเดียวกับในหอมใหญ่และองุ่น ทั้งนี้พลังต้านอนุมูลอิสระของทุเรียนสุกจะมีมากกว่า มังคุด ลิ้นจี่ ฝรั่ง มะม่วง ตามลำดับ 
2.ถ้าจะกินเพื่อสุขภาพก็ให้กินได้ครั้งละไม่เกิน 2 พูต่อสัปดาห์ และถ้ามื้อไหนกินทุเรียน ก็ไม่ต้องกินข้าวมาก 
3.ถ้ากินทุเรียนน้ำกะทิ ขออย่าใส่ข้าวเหนียวเยอะน้ำตาลแยะเพราะจะเพิ่มร้อนในหนักขึ้น 
4.ขอให้กินทุเรียนกับผลไม้เนื้อเย็นน้ำเยอะ เช่น มังคุด ลองกอง แตงโมเพราะจะช่วยดับร้อนได้ดี 5.อย่ากินทุเรียนร่วมกับเหล้า แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เพราะจะทำให้ยิ่งร้อนจัดขาดน้ำและช็อกได้เนื่องจากกำมะถันในทุเรียนละลายได้ดีในแอลกอฮอล์
ทุเรียนเป็นราชาผลไม้ที่อร่อยและนิยม แต่ก็ให้ระมัดระวังในการกินด้วยนะคะ


ด้วยความปรารถนาดี จากโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์