"สารพิษในพริกขี้หนูป่น" อากาศเมืองไทยวันนี้ เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวเย็นจนชื้นแบบนี้ อาจทำให้อาหารหลายๆ ชนิดเปลี่ยนสภาพได้
ผู้บริโภคต้องหมั่นสังเกตอาหารที่ซื้อมาทุกครั้งด้วยว่า อาหารเปลี่ยนสภาพจากเดิมที่มีสีสันสดใสตามสีธรรมชาติของอาหารมาเป็นสีขาวมีลักษณะฟูๆ หรือเป็นจุดๆ สีดำหรือไม่ หากมีการเปลี่ยนสภาพอย่างที่ว่า ให้หลีกเลี่ยงไม่ควรทาน ถ้ามองไม่เห็นด้วยตาเปล่าให้สังเกตว่า จับตัวเป็นก้อนหรือไม่ เช่น พริกป่น ที่เป็นเครื่องปรุงสำหรับก๋วยเตี๋ยวทุกชนิดนั้น ไม่ควรจับตัวเป็นก้อน
ร้านค้าบางร้าน จะแยกช้อนตักเครื่องปรุงไว้ชัดเจน แต่บางร้านไม่มี คนกินต้องเอาช้อนที่ตักน้ำส้ม พริกน้ำปลาไปตักพริกป่น อาจทำให้พริกป่นเกิดความชื้นได้ เมื่อเกิดความชื้น อาจทำให้เกิดเชื้อราและผลิตสารพิษที่เรียกว่า โอคราท็อกซิน เอ ในพริกป่นได้
สารพิษโอคราท็อกซิน เอ มักพบปนเปื้อนในเมล็ดธัญพืช เช่น ข้าวโพด ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต เมล็ดกาแฟ เมล็ดโกโก้และถั่วเมล็ดแห้งชนิดต่างๆ
หากผู้บริโภคทานไปทั้งๆ ที่พริกป่นเปลี่ยนสภาพ เนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเสียดาย เขี่ยๆ อันที่ไม่เป็นเชื้อราออกก็อาจทำให้ร่างกายได้รับอันตรายจากสารพิษชนิดนี้ได้ สารพิษชนิดนี้จะเข้าไปสะสมในร่างกายของเรา หากสะสมนานๆ เข้าจะเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะ
ถึงตอนนี้แล้ว คนที่ชอบบริโภคอาหารที่ต้องปรุงด้วยความเผ็ดจากพริกป่น ต้องระมัดระวังตัวให้มากกว่าเดิมสักนิด เพราะวันนี้ สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างพริกขี้หนูป่นจากร้านค้าในเขตกรุงเทพฯ จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี จำนวน 5 ตัวอย่าง เพื่อนำมาวิเคราะห์การปนเปื้อนของสารพิษ โอคราท็อกซิน เอ พบว่าทุกตัวอย่างมีสารพิษโอคราท็อกซิน เอ ปนเปื้อน และมี 1 ตัวอย่างที่พบปนเปื้อนเกินมาตรฐานของอียู ที่อนุญาตให้ปนเปื้อนได้ไม่เกิน 30 ไมโครกรัม/กิโลกรัม
ทางที่ดี หมั่นสังเกตอาหารก่อนทานให้มาก เพื่อความปลอดภัยนะคะ

ด้วยความปรารถนาดี จากโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์